รู้จักกับ Influencer Marketing เทรนด์มาแรงและกระแสที่ต้องจับตามอง

Influencer Marketing ได้กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า KOLs (Key Opinion Leaders) และ KOCs (Key Opinion Consumers) มีบทบาทที่แตกต่างกันอย่างไร? และแนวโน้มของตลาดอินฟลูเอนเซอร์กำลังเปลี่ยนไปในทิศทางไหน? มาค้นหาคำตอบและอัปเดตเทรนด์ล่าสุดที่ธุรกิจของคุณไม่ควรมองข้าม

Influencer Marketing คืออะไร มีความสำคัญในการตลาดยุคดิจิทัลอย่างไร

Influencer Marketing คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่แบรนด์ร่วมมือกับบุคคลที่มีผู้ติดตามจำนวนมากบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เพื่อสื่อสารและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้สร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจกับผู้ติดตามของพวกเขา ซึ่งทำให้แบรนด์สามารถใช้ประโยชน์จากอิทธิพลนี้ในการโปรโมตสินค้า บริการ หรือส่งสารทางการตลาดได้โดยตรง การตลาดแบบนี้เปรียบเสมือนการบอกต่อ (Word-of-Mouth) แต่ถูกขยายขอบเขตเพิ่มขึ้นอย่างมากผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลในปัจจุบัน

ความสำคัญของ Influencer Marketing 

แบรนด์ต่างๆ ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับจำนวนผู้ติดตาม (Followers) เท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่ ความสัมพันธ์ระหว่าง Influencer กับผู้ติดตาม เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาที่นำเสนอมีความน่าเชื่อถือและตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ปัจจุบัน เทรนด์การตลาดผ่าน KOLs (Key Opinion Leaders) และ KOCs (Key Opinion Consumers) กำลังเปลี่ยนแปลงไป โดยธุรกิจให้ความสนใจกับ Micro และ Nano Influencers มากขึ้น เนื่องจากสามารถสร้าง Engagement ที่สูงและมีความใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากกว่ากลุ่ม Macro Influencers

Influencer

ความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ อินฟลูเอนเซอร์แต่ละคนมีกลุ่มผู้ติดตามที่เฉพาะเจาะจง เช่น ด้านความงาม แฟชั่น เทคโนโลยี สุขภาพ หรือไลฟ์สไตล์ แบรนด์สามารถเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยตรงทั้งยังเพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement) และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสูงกว่าการโฆษณาแบบปกติ ทำให้ผู้บริโภครู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์มากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้นอย่างมาก

ปัจจุบันผู้บริโภคใช้เวลาบนแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเชื่อถือข้อมูลจากอินฟลูเอนเซอร์ที่พวกเขาติดตามมากกว่าการโฆษณาแบบตรงๆ การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าในช่องทางที่นี้ได้ดีกว่านั่นเอง

สถิติล่าสุดเกี่ยวกับการเติบโตของตลาด Influencer Marketing

การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและได้รับความนิยมในระดับโลก และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่ามูลค่าของตลาดทั่วโลกจะสูงถึง 32.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ การเติบโตนี้ไม่เพียงแต่เป็นผลมาจากการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น Instagram แต่ยังรวมถึงการเพิ่มขึ้นของการใช้ Nano-Influencers (ผู้สร้างคอนเทนต์ที่มีผู้ติดตามน้อยกว่า 10,000 คน) ซึ่งคิดเป็น 75.9% ของการเป็นพันธมิตรกับอินฟลูเอนเซอร์บน Instagram โดยพวกเขามีอัตราการมีส่วนร่วมที่สูงและสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความเฉพาะเจาะจงได้ดีกว่าอินฟลูเอนเซอร์รายใหญ่

กลุ่ม Gen Z ถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผลิตภัณฑ์จากอินฟลูเอนเซอร์ โดยมีถึง 58% ของ Gen Zers ที่เคยซื้อสินค้าตามคำแนะนำของอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความน่าเชื่อถือและความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นระหว่างอินฟลูเอนเซอร์กับผู้ติดตาม การที่ผู้บริโภคเหล่านี้ไว้วางใจคำแนะนำจากอินฟลูเอนเซอร์ทำให้แบรนด์ต่างๆ ต้องให้ความสำคัญกับการเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

อีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจคือการเพิ่มขึ้นของ AI-Generated Influencers ซึ่ง 86% ของผู้นำการตลาดเชื่อว่าในอนาคต ตัวละครที่สร้างขึ้นด้วย AI จะสามารถทดแทนมนุษย์อินฟลูเอนเซอร์ได้ภายในปีนี้ การใช้ AI ช่วยให้แบรนด์มีการควบคุมข้อความและการสร้างคอนเทนต์ได้เต็มที่โดยไม่ต้องเสี่ยงกับความผิดพลาดจากบุคคล นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของแคมเปญ B2B Influencer Marketing บน LinkedIn ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่บริษัทสามารถใช้เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในตลาดธุรกิจได้มากขึ้น

ประเภทของ Influencers มีอะไรบ้าง แต่ละแบบต่างกันยังไง

การทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer Marketing) มีการใช้บุคคลที่มีอิทธิพลหลายประเภท โดยแบ่งตามขนาดของผู้ติดตามและบทบาทของพวกเขาในการสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมแบรนด์ เราจะมาดูความแตกต่างของแต่ละประเภทกันดังนี้

KOLs vs KOCs

KOLs vs KOCs

  • KOLs (Key Opinion Leaders)
    KOLs คือบุคคลที่มีอิทธิพลสูงในวงการเฉพาะ เช่น ด้านเทคโนโลยี แฟชั่น ความงาม หรือสุขภาพ พวกเขามีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในเรื่องนั้น ๆ ซึ่งทำให้ผู้ติดตามเชื่อถือคำแนะนำจากพวกเขา KOLs มักมีผู้ติดตามจำนวนมากและสามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • KOCs (Key Opinion Consumers)
    KOCs คือผู้บริโภคทั่วไปที่มีอิทธิพลในวงการของตนเอง แม้จะไม่มีความเชี่ยวชาญสูงเหมือน KOLs แต่พวกเขามักมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและเป็นธรรมชาติกับผู้ติดตาม ในขณะที่ KOCs มีผู้ติดตามน้อยกว่า KOLs แต่ความเชื่อมั่นและความจริงใจจากผู้ติดตามมักสูงกว่า คำแนะนำของ KOCs มักจะถูกมองว่าเป็นความคิดเห็นที่ซื่อสัตย์และไม่มีการพาณิชย์มากเกินไป

ความแตกต่าง

  • KOLs มีความเชี่ยวชาญในบางด้านและมักมีผู้ติดตามจำนวนมาก โดยเหมาะสำหรับการโปรโมตแบรนด์ที่ต้องการสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
  • KOCs มีความเชื่อมั่นจากผู้ติดตามที่สูงกว่าแม้ว่าผู้ติดตามจะน้อยกว่า ซึ่งเหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการการมีส่วนร่วมที่จริงใจและตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นนั่นเอง

Macro, Micro, และ Nano-Influencers

  • Macro-Influencers
    Macro-Influencers คืออินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามหลายแสนหรือหลายล้านคน พวกเขามักเป็นคนดังหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงกว้าง เช่น ดาราหรือผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในวงการต่าง ๆ การทำงานกับ Macro-Influencers จะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่กว้างและสร้างการรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว
  • Micro-Influencers
    Micro-Influencers มีผู้ติดตามระหว่าง 10,000 – 100,000 คน พวกเขามักมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและสามารถสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ติดตามได้มากกว่า Macro-Influencers ซึ่งการทำงานกับ Micro-Influencers เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะและมีงบประมาณไม่สูงมาก
  • Nano-Influencers Nano-Influencers คืออินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามน้อยกว่า 10,000 คน แม้ว่าจะมีผู้ติดตามน้อย แต่พวกเขามีการมีส่วนร่วมที่สูงและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้ติดตาม การทำงานกับ Nano-Influencers เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและต้องการความเชื่อมั่นในระดับสูงจากผู้ติดตาม

ความแตกต่าง

  • Macro-Influencers เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการการรับรู้ในวงกว้างและสามารถลงทุนได้มาก
  • Micro-Influencers เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการผลตอบรับที่ดีและการมีส่วนร่วมจากกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง
  • Nano-Influencers เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือและการมีส่วนร่วมที่สูงจากผู้ติดตามในกลุ่มเล็ก

AI-Generated Influencers เมื่ออินฟลูเอนเซอร์ไม่ใช่คนจริงๆ

AI-Generated Influencers หรืออินฟลูเอนเซอร์ที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) คือบุคคลที่ไม่ใช่คนจริง แต่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง เช่น อินฟลูเอนเซอร์ดิจิทัลที่ดูเหมือนมนุษย์ มีลักษณะและบุคลิกที่สามารถดึงดูดผู้ชมได้ อินฟลูเอนเซอร์ประเภทนี้สามารถสร้างคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับแบรนด์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดที่มนุษย์อินฟลูเอนเซอร์อาจเผชิญ เช่น การมีตารางเวลา หรือข้อจำกัดทางด้านสุขภาพ

AI-Generated Influencers

ตัวอย่าง AI-Generated Influencers

Imma imma (@imma.gram)

Imma เป็นอินฟลูเอนเซอร์ดิจิทัลจากญี่ปุ่นที่ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Aww Inc. เธอเป็นตัวละคร 3D ที่มีการออกแบบให้เหมือนมนุษย์และมีการสร้างเนื้อหาในหลากหลายสาขา เช่น แฟชั่น เทคโนโลยี และการท่องเที่ยว Imma มักจะโพสต์ภาพในชุดแฟชั่นที่ได้รับการออกแบบจากแบรนด์ต่าง ๆ และมีการโปรโมตสินค้าในหลายแพลตฟอร์ม

ข้อดีของ AI-Generated Influencers

ไม่มีข้อจำกัดจากเวลาและสภาพร่างกาย สามารถควบคุมและปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพได้ตามต้องการสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตลอดเวลาและในหลากหลายช่องทาง

ข้อเสีย

อาจขาดความเป็นธรรมชาติและความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งกับผู้ติดตาม อาจไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนเหมือนกับอินฟลูเอนเซอร์จริง

AI-Generated Influencers ให้ความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการสร้างคอนเทนต์ แต่ไม่สามารถทดแทนความสัมพันธ์ที่แท้จริงและความน่าเชื่อถือที่อินฟลูเอนเซอร์มนุษย์สามารถสร้างได้

เทรนด์สำคัญของ Influencer Marketing ในปัจจุบัน

ในปี 2025, Micro และ Nano-Influencers กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในเรื่องของความเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจเฉพาะหรือเฉพาะเจาะจง เนื่องจาก Micro-Influencers มักมีการมีส่วนร่วมที่สูงและสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับผู้ติดตาม ซึ่งทำให้คำแนะนำจากพวกเขามักได้รับการยอมรับมากกว่าผู้ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก แม้จะมีผู้ติดตามน้อยกว่า, Nano-Influencers ยังคงสามารถสร้างความไว้วางใจและมีการตอบรับที่ดีจากผู้ติดตามในกลุ่มเล็ก ๆ ได้ดีขึ้น

Social Search Optimization เมื่อโซเชียลมีเดียกลายเป็นเครื่องมือค้นหา

แนวโน้มในปี 2025 Social Search Optimization (SSO) กลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำคัญ โดยผู้บริโภคมากขึ้นใช้ โซเชียลมีเดีย ในการค้นหาข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ บริการค้นหาผ่านแพลตฟอร์มเช่น Instagram, TikTok และ YouTube กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ซึ่งทำให้การทำ SEO ในโซเชียลมีเดียมีความสำคัญอย่างมากสำหรับแบรนด์ที่ต้องการให้ผู้ใช้ค้นพบผลิตภัณฑ์ของตนผ่านการค้นหาผ่านแฮชแท็กและคอนเทนต์ที่อินฟลูเอนเซอร์สร้างขึ้น

Gen Z Engagement เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยคอนเทนต์ที่ใช่

การ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Gen Z) เป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำคัญในปี 2025 โดย Gen Z มีการเข้าถึงโซเชียลมีเดียที่หลากหลายและพวกเขามักชอบคอนเทนต์ที่เป็น วิดีโอสั้น หรือ คอนเทนต์ที่มีความบันเทิง หรือ การศึกษา นอกจากนี้ Gen Z ยังมีความชื่นชอบในความหลากหลายและการสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ การทำการตลาดกับอินฟลูเอนเซอร์ที่สามารถพูดคุยและตอบสนองต่อความต้องการของ Gen Z อย่างตรงจุด จะช่วยให้แบรนด์สามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายนี้ได้

Long-Term Partnerships ทำไมการร่วมงานระยะยาวจึงมีประสิทธิภาพมากกว่าแคมเปญสั้นๆ

การสร้าง ความร่วมมือระยะยาว กับอินฟลูเอนเซอร์กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าเดิม การร่วมงานระยะยาวช่วยสร้างความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคและเพิ่มความสม่ำเสมอในการสร้างเนื้อหาของแบรนด์ การที่อินฟลูเอนเซอร์สามารถสร้างการรับรู้ของแบรนด์อย่างต่อเนื่องจะทำให้ผู้ติดตามรู้สึกคุ้นเคยและมีความมั่นใจมากขึ้นในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของแบรนด์ การทำแคมเปญระยะยาวยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือมากขึ้นอีกด้วย

Multi-Channel Strategies การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ไม่ได้จำกัดแค่แพลตฟอร์มเดียว

การใช้ กลยุทธ์หลายช่องทาง (Multi-Channel Strategies) กำลังกลายเป็นเทรนด์ที่สำคัญในปี 2025 การทำการตลาดผ่านหลายแพลตฟอร์มช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้ชมในหลายรูปแบบได้ เช่น Instagram, TikTok, YouTube, Twitter หรือแม้แต่แพลตฟอร์มใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น การใช้หลายช่องทางยังช่วยให้แบรนด์สามารถกระจายเนื้อหาและโปรโมตสินค้าได้อย่างหลากหลายและเพิ่มโอกาสในการมีส่วนร่วมจากผู้ติดตามที่แตกต่างกันในแต่ละแพลตฟอร์ม

วิธีวัดผลลัพธ์และวิเคราะห์ ROI จาก Influencer Marketing

การวัดผลลัพธ์และการวิเคราะห์ ROI (Return on Investment) จาก Influencer Marketing เป็นขั้นตอนสำคัญในการประเมินความสำเร็จของแคมเปญ โดยต้องใช้ metrics หรือ ตัวชี้วัด ที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถปรับปรุงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

บางตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของแคมเปญการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ได้แก่ การขาย (Sales), การเปลี่ยนแปลง (Conversions), การเข้าถึง (Reach), การมีส่วนร่วม (Engagement) และความคิดเห็น (Sentiment) ซึ่งสามารถติดตามได้ดังนี้

  • การขายและการเปลี่ยนแปลง (Sales & Conversions) สามารถติดตามได้โดยใช้ลิงก์อ้างอิง (Referral links) หรือรหัสส่วนลด (Discount codes) ที่อินฟลูเอนเซอร์ให้แก่ผู้ติดตาม
  • การเข้าถึงและการมีส่วนร่วม (Reach & Engagement) สามารถตรวจสอบได้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียโดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ (Analytics tools) เช่น จำนวนการเข้าถึงโพสต์ การกดไลค์ การคอมเมนต์ และการแชร์
  • ความคิดเห็น (Sentiment) การประเมินความคิดเห็นของผู้ติดตามสามารถทำได้โดยการวิเคราะห์ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่มีต่อเนื้อหาของอินฟลูเอนเซอร์

แพลตฟอร์มอย่าง AgencyAnalytics สามารถช่วยให้เอเจนซี่ติดตามตัวชี้วัดเหล่านี้แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยให้ได้ภาพรวมของผลการดำเนินงานของแคมเปญและสามารถทำการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปและข้อแนะนำสำหรับแบรนด์ที่ต้องการใช้ Influencer Marketing

สำหรับแบรนด์ที่ต้องการใช้ Influencer Marketing ควรเริ่มต้นด้วยการเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและค่านิยมของแบรนด์ การเลือกอินฟลูเอนเซอร์ไม่ควรเน้นแค่จำนวนผู้ติดตาม แต่ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ที่อินฟลูเอนเซอร์มีต่อผู้ติดตามและการมีส่วนร่วมของพวกเขา (Engagement Rate) การเลือก Nano-Influencers หรือ Micro-Influencers อาจเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากพวกเขามีอิทธิพลสูงในกลุ่มผู้ติดตามที่เป็น niche และสามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ดีกว่าอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามมาก

กลยุทธ์ที่ควรใช้เพื่อให้แคมเปญประสบความสำเร็จคือการให้ความสำคัญกับ Authenticity และ Transparency โดยเน้นการเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่มีการสร้างคอนเทนต์ที่เป็นธรรมชาติและเชื่อถือได้ ควรสร้าง Long-Term Partnerships แทนการทำแคมเปญสั้นๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและยั่งยืนกับผู้ติดตาม นอกจากนี้ การใช้ Multi-Channel Strategies คือการกระจายแคมเปญไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Instagram, TikTok, YouTube เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและการมีส่วนร่วม

ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาฟรี! Rise Group Asia (RGA)

Facebook www.facebook.com/risegroupasia